แมนฯ ยูไนเต็ด เจอกับสองสถิติที่ไม่น่าจดจำหลังจากที่บุกไปแพ้ เชลซี 3-4 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
เกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทั้งสองทีมสู้กันอย่างสนุก โดยเจ้าบ้านนำก่อนสองประตูจาก คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ โคล พาลเมอร์ (จุดโทษ) แต่ฝั่ง “ปีศาจแดง” ฮึดยิงสามประตูรวดจาก อเลฮานโดร การ์นาโช่ (2 ลูก) และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ให้ทีมแซงนำ 3-2
ในขณะที่ทีมเยือนน่าจะมีแต้มกลับบ้านแต่กลับมาเสียสองประตูในช่วงทดเจ็บให้ พาลเมอร์ ที่กลายเป็นฮีโร่ทำแฮตทริคในเกมนี้ ช่วยให้ “สิงห์บลูส์” เอาชนะไปได้สุดมัน 4-3
จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ไปแล้ว 17 เกมในซีซั่นนี้รวมทุกรายการ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1989/90 หรือเมื่อ 24 ปีที่แล้ว โดยครั้งนั้นทีมจบในอันดับที่ 13 ของตาราง มีคะแนนเหนือโซนตกชั้นแค่ 5 แต้มเท่านั้น
นอกจากนี้การเสียประตูนาทีที่ 100.39 และเป็นประตูที่ทำให้ทีมพ่ายแพ้ ยังเป็นประตูช่วงท้ายเกมที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แซงหน้า เดยัน คูลูเซฟสกี้ ที่ยิงประตูชัยนาทีที่ 99.53 ให้ สเปอร์ส แซงชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ของทีมที่นำในช่วงท้ายแต่กลับพลิกกลับมาแพ้