แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ เปิดเผยถึงการสร้างสปิริตในทีม และโอกาสที่จะได้สนุกกับการสร้างประวัติศาสตร์ หลังออกสตาร์ทยูโร 2024 ได้อย่างยากลำบาก
อังกฤษ จะเผชิญหน้ากับ เนเธอร์แลนด์ ในรอบรองชนะเลิศ ที่ดอร์ทมุนด์ ในคืนวันพุธ ขณะที่พวกเขาตั้งเป้าที่จะเข้าใกล้การคว้าแชมป์รายการนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ทีมเต็งก่อนทัวร์นาเมนต์อย่าง อังกฤษ เข้ามาถึงรอบตัดเชือกด้วยการเอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงดวลจุดโทษ แต่ฟอร์มของพวกเขาในเยอรมันนั้นถูกวิจารณ์อย่างหนัก
ในงานแถลงข่าว เซาธ์เกต ระบุว่าผู้เล่นของเขารู้สึกหนักใจกับความคาดหวัง และเสียงรบกวนภายนอกที่ถาโถมเข้ามาระหว่างรอบแบ่งกลุ่ม
แต่เขารู้สึกยินดีที่พวกเขารวมตัวกันและเปลี่ยนทัศนคติ โดยส่วนหนึ่งต้องขอบคุณ เอ็ด ชีแรน นักร้องดังที่มาเยือนฐานฝึกซ้อมก่อนเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับ สโลวาเกีย
“มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จุดแข็งอย่างหนึ่งของเราในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมาคือความกลัวที่น้อยลง การควบคุมตัวเองที่น้อยลง” เซาธ์เกต กล่าว
“แต่ผมคิดว่าตอนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ความคาดหวังค่อนข้างหนักหน่วง และแน่นอนว่าเสียงจากภายนอกก็ดังขึ้นมากกว่าที่เคยเป็นมา”
“ผมรู้สึกว่าเราไม่สามารถอยู่ในจุดที่ถูกต้องได้ ในที่สุด สิ่งที่น่าประทับใจก็คือผู้เล่นต่างหาผลการแข่งขันและพบวิธีที่จะเอาชนะ”
“ผมรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปเมื่อเราผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์และแน่นอนในรอบก่อนรองชนะเลิศ”
“ผมรู้สึกว่าเราได้เห็นเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นของเราในการเล่นบอล มีอิสระมากขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าข้อความใดๆ เปลี่ยนไป แต่ผมแค่รู้สึกว่าในกลุ่มนั้นเปลี่ยนไป”
“ตอนนี้คุณอยู่ในช่วงเวลานั้นในทัวร์นาเมนต์โดยที่ ‘อะไรเป็นไปได้ล่ะ? อะไรที่ทำได้ล่ะ?’ มากกว่าที่จะพูดว่า ‘มีอะไรที่ผิดพลาดเกิดขึ้นบ้างล่ะ?’ นั่นแตกต่างกันสำหรับผู้เล่นหรือนักกีฬา”
“ตอนนี้เป็นโอกาสที่เราจะสร้างประวัติศาสตร์ซึ่งเราสนุกกับการทำ มันเป็นโอกาสที่จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศยูโรครั้งแรกนอกอังกฤษ มันเป็นครั้งแรกที่อังกฤษจะทำได้แบบนั้น”
“เรากำลังพยายามบุกเบิกพื้นที่ใหม่ นั่นเป็นเรื่องยากและซับซ้อน แต่ผู้เล่นก็ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม คุณสามารถผูกพันกับความยืดหยุ่นที่ถูกสร้างขึ้นมาได้”
“เราโชคดีมาก เรามี เอ็ด ชีแรน มาร้องเพลงและมันเยี่ยมมาก นักเตะดื่มเบียร์ 2-3 แก้วก่อนเกมที่แล้ว”
“คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์แบบนั้นได้ แต่เมื่อคุณต้องโหม่งบอลออกจากกรอบเขตโทษของคุณในนาทีที่ 92 และพยายามทำประตูในนาทีที่ 96 มันไม่มีอะไรจะแข็งแกร่งไปกว่านั้นอีกแล้วสำหรับการสร้างสปิริตในทีม”